วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555



อาหารของปลามังกรที่ผู้เลี้ยงนิยมให้มี 4 อย่างก็คือ กุ้งฝอย หนอนนก จิ้งหรีด และลูกปลาเล็ก แต่จริงๆ แล้วปลาชนิดนี้สามารถกินอาหารได้หลายอย่างโดยแบ่งออกหมวดหมู่ได้ 7 ชนิดดังต่อไปนี้..

1. แมลง มีหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น จิ้งหรีด หนอนนก แมลงสาบ ตั๊กแตน การให้อาหารประเภทแมลงมีข้อดีคือปลาชอบกิน ย่อยง่าย และแมลงส่วนใหญ่จะลอยน้ำทำให้ปลากินง่ายไม่ต้องว่ายหาหรือไล่ล่าในตู้ แต่ก็มีข้อเสียด้วยเช่นกันก็คือของเสียจากปลาจะมี “เปลือก” ออกมาด้วยเช่นเปลือกหนอน ปีกจิ้งหรีด และส่วนอื่นๆ ซึ่งเศษของเสียพวกนี้จะลอยน้ำแล้วเกาะตัวเป็นคราบ หากไม่มีการขัดถูตู้เป็นประจำปล่อยไว้นานเข้าเปลือกเหล่านี้จะฝังตัวแน่นเข้ากับตู้ทำให้ตู้สกปรกไม่น่ามอง ในท้องตลาดทั่วๆ ไปจะมีหนอนนกและจิ้งหรีดขายเป็นประจำโดยราคาของหนอนนกจะอยู่ที่ประมาณขีดละ 10-30 บาท ส่วนจิ้งหรีดก็จะขายเป็นถุงๆ ละ 30-50 บาท

2. สัตว์เล็ก เช่น ไรทะเล กุ้งฝอย และลูกกบ ในส่วนของ “กุ้งฝอย” หากฝึกให้ปลากินได้เป็นประจำก็จะเป็นผลดีทำให้ปลามีสีสันที่ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปลามังกรแดง ส่วน “ลูกกบ” ปลาบางตัวก็ชอบ บางตัวก็ไม่ชอบนะครับ ส่วนใหญ่แล้วลูกกบมักจะเป็นเหยื่อที่ปลากินได้ไม่นาน กินไม่ประจำ แรกๆ อาจจะชอบแต่พอซักพักก็จะเริ่มเบื่อและกินน้อยลง ลูกกบเป็นเหยื่อปลาที่ค่อนข้างมีราคาสูงคือขายกันที่ตัวนึงประมาณ 2-5 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนการซื้อ)

3. ลูกปลา นอกจากพวกแมลงและสัตว์เล็กแล้วก็ยังมีพวกปลาเล็กๆ อีกด้วย เช่น ปลาสอด ปลาหางนกยูง ปลากัด ปลานิล ปลาทอง การให้อาหารประเภทลูกปลามีข้อดีคือปลาโตเร็ว สีสันสวยงาม และกระตือรือร้นสม่ำเสมอเนื่องจากได้ไล่ล่าลูกปลาเป็นประจำ แต่การให้ปลาเหยื่อเป็นอาหารก็มีข้อเสียเช่นกันคือ ปลาบางตัวอาจมีโรคติดมาและเมื่อปลามังกรกินเข้าไปแล้วก็มีอาจผลให้ได้รับเชื้อนั้นด้วย อีกเรื่องคือ “ปรสิต” ที่ติดมาไม่ว่าจะเป็นเห็บ หรือ หนอนสมอ (หากหลีกเลี่ยงจากการใช้เหยื่อประเภทนี้ไม่ได้ผมแนะนำให้ล้างลูกปลาเหล่านี้ด้วย “น้ำผสมด่างทับทิม” จางๆ ซักรอบและล้างด้วยน้ำสะอาดก่อนใช้อีกครั้งเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคและกำจัดปรสิต การผสมด่างทับทิมเข้มข้นเกินไปมีผลทำให้ลูกปลาตายอย่าลืมระวังที่จุดนี้ด้วยนะครับ)

4. สัตว์เลื่อยคลาน อย่างเช่น จิ้งจก ตุ๊กแก กิ้งกือ… จริงๆ แล้วสัตว์เลื้อยคลานพวกนี้ปลามังกรชอบกินมากแต่ติดตรงที่ว่าหายากมีไม่มากนัก ไม่มีขายตามท้องตลาดใครที่คิดจะให้ก็ต้องขยันจับกันหน่อย ผมเคยได้ยินว่าการให้เหยื่อพวกนี้แล้วสีปลาจะดีขึ้น แต่จากที่ทดลองแล้วผลปรากฏว่าไม่ได้มีผลเรื่องสีมากนัก จากที่ไม่แดงก็ไม่ได้แดงขึ้นเท่าไหร่ ส่วนตัวที่แดงอยู่แล้วก็คงเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง สำหรับ “กิ้งกือ” ผมไม่แนะนำให้ใช้เพราะมีการพิสูจน์แล้วว่ามีพิษ หากให้ปลากินเป็นประจำอาจมีผลร้ายในระยะยาวได้

5. เนื้อสัตว์ ที่นิยมให้ก็มีหลายชนิดเช่น เนื้อกุ้ง เนื้อปลา เนื้อหมู หรือเนื้อชนิดอื่นๆ เหยื่อปลาชนิดนี้ผมแนะนำให้ล้างให้สะอาดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีไข่พยาธิหรือสิ่งสกปรกชนิดอื่นๆ หลงเหลืออยู่ แล้วในการให้จริงก็ควรตัดชิ้นเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ จะได้กินง่ายกลืนสบายๆ... จริงๆ แล้วเนื้อสัตว์พวกนี้ไม่ค่อยเหมาะกับระบบการย่อยปลามังกรนัก (ยกเว้นเนื้อกุ้งและเนื้อปลา) การให้กินเป็นประจำอาจมีผลทำให้ระบบขับถ่ายไม่ดี อันจะเป็นที่มาของโรค “ริดสีดวง” ได้

6. อาหารเม็ด ข้อดีของอาหารเม็ดก็คือมีสารอาหารที่จำเป็นและวิตามินครบถ้วนซึ่งช่วยในการช่วยเพิ่มสีสันและความสมบูรณ์ให้กับตัวปลา ในท้องตลาดบ้านเรามีหลายยี่ห้ออย่างเช่นของ Hikari, Tetra และ Azoo โดยที่อาหารเม็ดเหล่านี้ถูกทำมาเพื่อสำหรับปลามังกรโดยเฉพาะ มีการแต่งกลิ่นและรูปทรงให้ดูเหมือนเป็นกุ้งหรือลูกปลาตัวเล็กๆ ทำให้ปลาสนใจมากขึ้น แต่ปกติแล้วผู้เลี้ยงปลามังกรมักไม่ค่อยให้กินอาการเม็ดกันนั่นไม่ใช่เพราะแพงหรือหาซื้อยากอะไรนะครับ แต่เพราะปลาไม่ค่อยกิน กินน้อย หรือกินได้ไม่นานแค่ระยะหนึ่งก็เลิก
แต่สำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่ที่ไม่ต้องการทำบาปก็มักจะฝึกเลี้ยงเจ้ามังกรน้อยด้วยอาหารเม็ดเหล่านี้ ใหม่ๆ อาจจะฝึกได้ยากหน่อย แต่เมื่อปลาหิวมากๆ ก็จะค่อยๆ ยอมรับอาหารเม็ดเอง (จะฝึกปลาให้กินอาหารเม็ดต้องใจแข็งหน่อยเพราะช่วงแรกปลาอาจไม่ยอมรับเลย ไม่กิน ไม่แตะต้อง กินแล้วอมๆ เคี้ยวๆ แล้วก็บ้วนออก) ในช่วงการฝึกช่วงแรกๆ ให้ใช้วิธีผสมไปก่อนคือให้ทั้งเหยื่อปลาปกติและอาหารเม็ด เพื่อกันปลาหิวจัดและซึมหรือพาลไม่กินอะไรอีกเลย เมื่อปลาหรับตัวกับอาหารเม็ดได้แล้วจึงให้ค่อยให้อาหารเม็ดกินอย่างเดียว วิธีนี้สามารถใช้ในการฝึกให้ปลากินอาหารใหม่ชนิดอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน

7. เมนูพิเศษ ปัจจุบันในท้องตลาดมีสัตว์แปลกๆ มาขายเพื่อเป็นเหยื่อให้กับปลามังกรอย่างเช่น แมงป่อง ตะขาบ หนอนยักษ์และลูกตะพาบน้ำ ทั้ง 4 อย่างนี้ถือเป็นเมนูพิเศษที่ไม่ค่อยจะเหมาะนักกับปลามังกรแต่ว่ามันก็ชอบกินมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 ชนิดแรกที่เชื่อกันว่าจะทำให้ปลามีสีสันดี สวยงาม เพราะมีสารเร่งสีตัวนั้นนี้ แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ การเสนอขายเหยื่อแต่ละอย่างก็ราคาสูงมากอย่างเช่นตะขาบตัวนึงตกอยู่ที่ 50-80 บาท (ตัดเขี้ยวแล้ว) แมงป่องก็ 15-20 บาท หนอนยักษ์ (คล้ายๆ หนอนนกแต่มีขนาดใหญ่กว่าประมาณ 10-20 เท่า) ราคาตัวละ 4 บาท ส่วนลูกตะพาบก็ตัวละประมาณ 5 บาท... เมนูพิเศษที่ว่านี้เหมาะสำหรับปลาใหญ่ที่มีขนาดตั้งแต่ 1 ฟุตขึ้นไปนะครับ ในปลาเล็กไม่แนะให้ใช้ เหยื่อปลาชนิดนี้ผมถือเป็น “มื้อโอชา” ที่ให้นานๆ ทีดีกว่าครับ

ในการให้อาหารก็ไม่ควรให้มากเกินไป ให้อย่างพอเหมาะเพื่อป้องการ “โรคอ้วน” นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้น้ำเสียง่ายอีกด้วย และไม่ควรให้อาหารเผื่อทิ้งไว้ไม่ว่าอาหารเป็นอย่างกุ้งฝอยหรือลูกปลา และอาหารเม็ดลอยน้ำเพราะจะทำให้ปลาได้กินอิ่มอยู่เสมอ จุดนี้จะทำให้ปลาขาดความคึกคัก กระตือรื้อร้น เพราะไม่เคยรู้สึกหิว อิ่มตลอด มีให้กินเสมอ การให้อาหารในปลาเล็ก (ก่อน 1 ฟุต) ควรให้วันละ 2 มื้อ ส่วนปลาใหญ่ให้เพียงวันละ 1 มื้อก็พอ สำหรับลูกปลาขนาดเล็ก ๆ ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ไม่ควรที่จะเลี้ยงด้วยกุ้ง หรือพวกเนื้อ เพราะจะทำให้ติดคอ ท้องอืด อาหารไม่ย่อยซึ่งอาจทำให้ตายได้ ในปลาวัยนี้ให้เป็นไรทะเลหรือหนอนนกตัวเล็กๆ จะดีกว่า แต่ถ้าอยากให้ปลากินกุ้งฝอยก็ควรที่แกะหัวแกะหางให้เรียบร้อยจึงค่อยให้เพื่อป้องการ “กรีกุ้ง” หรือส่วนแหลมคมส่วนอื่นๆ ไปทำอันตรายปลาได้

ปลามังกร

1 ความคิดเห็น: